ตารางเวลาปฏิบัติธรรมร่วมกันของหมู่คณะ

03.30 น. ระฆังสัญญาณเตรียมตัวทำวัตรเช้า
04.00 น. สวดมนต์ทำวัตรเช้าและปฏิบัติธรรมร่วมกัน
05.00 น. ทำความสะอาดบริเวณศาลาใหญ่และโบสถ์
05.15 น. พระสงฆ์และอุบาสกเตรียมบิณฑบาต
07.00 น. ฉันภัตตาหารเช้า บริเวณหอฉัน
09.00 น. ปฏิบัติธรรมร่วมกันที่ศาลาใหญ่และโบสถ์
10.30 น. แยกปฏิบัติกิจส่วนตัว
11.00 น. ฉันภัตตาหารเพล บริเวณหอฉัน
13.00 น. ปฏิบัติธรรมร่วมกันที่ศาลาใหญ่และโบสถ์
14.30 น. ร่วมกันทำความสะอาดบริเวณวัด
17.30 น. สวดมนต์ทำวัตรเย็นและปฏิบัติธรรมร่วมกัน
20.00 น. แยกปฏิบัติกิจส่วนตัวและพักผ่อน
(วันพระ 20.30 น.)

(หมายเหตุ : ถ้าบุคคลใดไม่สามารถปฏิบัติตามตารางเวลาร่วมกันของหมู่คณะได้ กรุณาพิจารณาตนเอง เพื่อป้องกันมิให้บุคคลอื่นทำตามอย่าง จนมีผลเสียหายต่อหมู่คณะ ยกเว้น ได้รับอนุญาตจากเจ้าอาวาสกรณีจำเป็น)

ศึกษาธรรมะ กับธรรมชาติ


ศึกษาธรรมะ ศึกษากับธรรมชาติมันจริงๆ
มันก็ต้องรู้มาจากกฎของธรรมชาติมันจริงๆ
เพราะธรรมชาติมันสอนให้เราจริงๆ เป็นอย่างนั้น


ตาจึงเป็นหน้าที่ของมองให้เห็น
หูจึงเป็นหน้าที่ของฟัง
จมูกจึงเป็นหน้าที่ของดม
กายเราเป็นหน้าที่ที่สัมผัส เย็น ร้อน อ่อน แข็ง
ลิ้นนี่ กินอาหารเข้าไปเป็นหน้าที่ที่จะรู้รส
จิตใจของเราเรียกว่าธรรมารมณ์เกิดขึ้นกับใจ
คำว่าธรรมารมณ์เกิดขึ้น ก็คือ หมายถึง
จิตใจเราปรากฏ พลิกแพลง เราต้องเห็นต้องรู้


เมื่อเรารู้จักหน้าที่ของคน
เราต้องศึกษาความเป็นคน
เนี่ยะ…ความเป็นมนุษย์
เรื่องเทวดา เรื่องพระอินทร์ พระ-พรหม
แล้วก็ไม่ต้องศึกษาก็ได้ มันเป็นอย่างนั้น
แต่เมื่อศึกษาความเป็นมนุษย์ได้แล้ว
มันจะไหลไป เข้าไปสู่ความเป็นพระอริยบุคคล
ไม่ว่ายุคนั้น ยุคนี้ ไปเหมือนเดิม


ดังนั้น การศึกษาธรรมะจึงไม่ยาก
ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่ใดทั้งสิ้น
ขึ้นอยู่กับตัวคน อยู่ที่ไหนก็ทำได้…


หลวงพ่อเทียน (คัดจากแถบบันทึกเสียง รหัส ท.119ม.)