ระเบียบการเข้าพักปฏิบัติธรรมที่วัดสนามในโดยละเอียด
๑. เตรียมตัวทำวัตรเช้า ที่ศาลาใหญ่ เวลา ๐๔.๐๐ น. (เข้าก่อนเวลา ๕-๑๐ นาที)
๒. เวลา ๐๕.๑๕ น. พระไปบิณฑบาต ผู้ชายจะไปเป็นลูกศิษย์พระ ส่วนญาติธรรมผู้หญิง พิจารณาช่วยเหลือทำความสะอาด (กวาด ,เช็ด, ถู) ศาลาใหญ่ , พื้นที่รอบศาลาและในครัว, ห้องน้ำ , โบสถ์ธรรมชาติ , ศาลารวมญาติ ฯลฯ (วัดสนามใน เจ้าหน้าที่ทุกคนเป็นอาสาสมัคร และ ที่สำคัญทุกกิจกรรมในการทำงานเป็นการฝึกปฏิบัติธรรมนอกรูปแบบ) หากวันใดที่ญาติธรรมผู้ชายมีน้อย ผู้หญิงก็สามารถเป็นลูกศิษย์พระไปบิณฑบาตได้ โดยไปเป็นคู่ หรือ สองคน
๓. ฉันอาหารเช้า เวลา ๐๗.๐๐ น. ระฆังจะตีก่อนเวลา ๑๐-๑๕ นาที พระทุกรูปจะไปนั่งรอที่อาสนะจนครบทุกรูป เพื่อไปพิจารณาอาหารพร้อมกัน ดังนั้น ญาติธรรมหญิง/ชาย ทุกคนที่ไม่มีกิจกรรมในการช่วยเหลืองานในครัว ให้นำน้ำดื่มใส่แก้ว ไปนั่งรอที่เสื่อปูไว้ (เสื่อและกล่องทิชชู ญาติธรรมช่วยกันปูไว้แล้วก่อนทานอาหาร) รอจนกว่า พระทุกรูปพิจารณาอาหารเสร็จและกลับมาที่อาสนะของท่าน ญาติธรรมทุกคนพร้อมกันกราบพระ และ ลุกขึ้นไปพิจารณาอาหารพร้อมกัน โดยสามารถเดินตักอาหาร ๒ แถว เหมือนทานอาหารบุฟเฟต์ จะตักอาหารหนึ่งหรือสองกะละมัง ก็ได้ (โดยนำอาหาร คาว/หวาน รวมกัน) ตักอาหาร ครั้งเดียว ไม่มีการเดิน ไป/มา เพื่อตักอาหารเสร็จแล้ว ให้กลับมาที่นั่งเดิม รอจนพระท่านสวดพิจารณาอาหารพร้อมกัน แล้วจึงรับประทาน เมื่อทานเสร็จแล้ว อย่าเพิ่งลุกขึ้น นั่งรอจนกว่าพระท่านสวดอนุโมทนาหลังทานอาหารเสร็จแล้วจึงลุกขึ้น ช่วยกันเก็บล้างภาชนะให้เรียบร้อย
๔. ฉันอาหารกลางวันก็จะเหมือนกับตอนฉันอาหารเช้า สำหรับญาติธรรมใดที่ไม่ได้ทานอาหารกลางวัน ให้มาปฏิบัติธรรมที่บริเวณส่วนกลาง คือ ศาลาใหญ่ หรือ โบสถ์ธรรมชาติ อย่าอยู่ในกุฏิที่พัก โดยไม่แจ้งสาเหตุให้ทราบก่อน ถ้ามีการตรวจสอบพบ หรือ มีผู้แจ้ง จะมีผลต่อการพักในครั้งต่อไป
๕. หลังเวลา ๑๔.๓๐ น. จะมีกิจกรรมร่วมกันระหว่าง พระและฆราวาสทุกคน เป็นการฝึกปฏิบัติธรรมนอกรูปแบบคือ การกวาดใบไม้ทั่วบริเวณวัด หลังจากกวาดใบไม้ จะมีเครื่องดื่มร้อน และ น้ำปานะ จัดไว้ให้ทั้งพระสงฆ์และฆราวาส
๖. การปฏิบัติธรรม วันธรรมดา ถึง ๒๐.๐๐ น. สำหรับวันพระ จะปฏิบัติธรรม ถึง ๒๐.๓๐ น.
๗. ทุกช่วงเวลาในการปฏิบัติธรรม เวลา ๐๕.๐๐ น., ๑๐.๓๐ น. , ๑๔.๓๐ น. , ๒๐.๐๐ น. หรือ ๒๐.๓๐ น. ในวันพระ เมื่อออกไปเดินจงกรมแล้ว ให้กลับมาที่นั่งเดิม ก่อนเวลา ๑๐ – ๑๕ นาที ให้มายกมือสร้างจังหวะพร้อมกราบพระพร้อมกัน เป็นการตรวจสอบว่า ได้เข้ามาปฏิบัติธรรม จริง
๘. ห้ามกลับที่พักก่อนเลิกปฏิบัติธรรม ถ้าหากพบเห็นหรือมีผู้แจ้งจะมีผลในการพักครั้งต่อไป
๙. ห้ามพูดคุย , ชักชวนผู้อื่นคุย , รบกวนผู้อื่น หรือ ใช้โทรศัพท์ในระหว่างปฏิบัติธรรม
๑๐.ทุกช่วงเวลาในการปฏิบัติธรรม ให้มาก่อนเวลา ๕-๑๐ นาทีทุกครั้ง
๑๑.การเข้าพักทุกครั้งให้ มาลงทะเบียนเข้าพัก ก่อนเวลา ๑๖. ๐๐ น. ของทุกวัน
(สำนักงานปิดก่อนเวลาทำวัตรเย็น)ทุกครั้งที่เข้าพัก ต้องนำ บัตรประชาชนตัวจริง , ผ้าห่ม และ ของใช้ส่วนตัวที่จำเป็น
********** วัดสนามใน ***********
ก่อนคืนกุญแจห้องพัก
๑. ซักปลอกหมอนแล้วตากให้แห้งนำไปเก็บไว้ที่เดิมที่ก่อนนำมาใช้(ในศาลาปฏิบัติธรรม)
๒. เก็บหมอน. เสื่อที่นำมาปูนอน นำไปเก็บไว้ที่เดิมที่ก่อนนำมาใช้
(ในศาลาปฏิบัติธรรม ถ้าหากมีแดดควรนำมาผึ่งตากแดดไว้)
๓. ตรวจดูปลั๊กทุกชนิดในห้องพัก. สวิทช์ไฟฟ้า. พัดลม . ปิดก๊อกน้ำ ฯลฯ
๔. ทำความสะอาดห้องพัก. ห้องน้ำ พร้อมปิดหน้าต่างให้เรียบร้อยก่อนออกจากห้องพัก
**** วัดสนามใน ไม่มีพิธีการบวชเนกขัมมะ ,รับศีล-ลาศีล ฯลฯ*****
**** สิ่งที่ท่านทำจะเป็นอานิสงส์ของท่านทุกคน – ขอบคุณค่ะ ****
ศึกษาธรรมะ กับธรรมชาติ
ศึกษาธรรมะ ศึกษากับธรรมชาติมันจริงๆ
มันก็ต้องรู้มาจากกฎของธรรมชาติมันจริงๆ
เพราะธรรมชาติมันสอนให้เราจริงๆ เป็นอย่างนั้น
ตาจึงเป็นหน้าที่ของมองให้เห็น
หูจึงเป็นหน้าที่ของฟัง
จมูกจึงเป็นหน้าที่ของดม
กายเราเป็นหน้าที่ที่สัมผัส เย็น ร้อน อ่อน แข็ง
ลิ้นนี่ กินอาหารเข้าไปเป็นหน้าที่ที่จะรู้รส
จิตใจของเราเรียกว่าธรรมารมณ์เกิดขึ้นกับใจ
คำว่าธรรมารมณ์เกิดขึ้น ก็คือ หมายถึง
จิตใจเราปรากฏ พลิกแพลง เราต้องเห็นต้องรู้
เมื่อเรารู้จักหน้าที่ของคน
เราต้องศึกษาความเป็นคน
เนี่ยะ…ความเป็นมนุษย์
เรื่องเทวดา เรื่องพระอินทร์ พระ-พรหม
แล้วก็ไม่ต้องศึกษาก็ได้ มันเป็นอย่างนั้น
แต่เมื่อศึกษาความเป็นมนุษย์ได้แล้ว
มันจะไหลไป เข้าไปสู่ความเป็นพระอริยบุคคล
ไม่ว่ายุคนั้น ยุคนี้ ไปเหมือนเดิม
ดังนั้น การศึกษาธรรมะจึงไม่ยาก
ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่ใดทั้งสิ้น
ขึ้นอยู่กับตัวคน อยู่ที่ไหนก็ทำได้…
หลวงพ่อเทียน (คัดจากแถบบันทึกเสียง รหัส ท.119ม.)