ตารางปฏิบัติธรรม

03:30 น. ระฆังสัญญาณ เตรียมตัวทำวัตรเช้า
ตื่นนอน ปฏิบัติภาระกิจส่วนตัว แต่งกายชุดสุภาพ
เดินทางจากที่พักมา ที่ศาลาใหญ่ เตรียมเบาะรองนั่ง และหนังสือสวดมนต์
(อุบาสิกาเตรียมผ้าคลุมเข่าด้วย)

04:00 น. สวดมนต์ทำวัตรเช้า และ ปฏิบัติธรรมร่วมกัน
สวดมนต์ประมาณ 30 นาที ทำความรู้สึกตัว ในท่านั่งจนหมดเวลา

05:00 น. อุบาสิกาทำความสะอาด ปัดกวาด เช็ดถู
บริเวณศาลาใหญ่, โบสถ์, ศาลารวมญาติ และล้างห้องน้ำ
อุบาสกเตรียตัวออกบิณฑบาตร กับพระสงฆ์
ให้เตรียมตระกร้ารถเข็น และย่าม โดยแบ่งเป็น 3 ทีม
ตามสายบิณฑบาตร 3 สาย

05:15 น. พระสงฆ์และอุบาสก ออกบิณฑบาตร

06.00 น. พระสงฆ์กลับมาจากบิณฑบาตร
อุบาสก, อุบาสิกา คัดแยกอาหารบิณฑบาตร
และจัดเตรียมภัตตาหารเช้า เตรียมอ่างล้างชาม

07:00 น. ระฆังสัญญาณ ฉันภัตตาหารเช้า บริเวณหอฉัน
อุบาสก, อุบาสิกา ปูเสื่อบริเวณหอฉัน อุบาสกด้านขวา
อุบาสิกาด้านซ้าย พร้อมเตรียมทิชชู่ และแก้วน้ำดื่ม
นั่งทำความรู้สึกตัว รอพระสงฆ์ตักภัตตาหารเช้า
เริ่มรับประทานอาหารหลังจาก พระสงฆ์พิจารณาอาหารเสร็จ

08.00 น. รับพรพระ เก็บเสื่อ เก็บทิชชู่ นำแก้วมาล้างที่จุดล้างแก้ว
และนำชามมาล้างที่จุดล้างชาม

09:00 น. ปฏิบัติธรรมร่วมกัน ที่ศาลาใหญ่และโบสถ์

10:30 น. แยกปฏิบัติกิจส่วนตัว เก็บชามที่ตากไว้ เตรียมภัตตาหารเพล

11:00 น. เสียงกลองสัญญาณ ฉันภัตตาหารเพล บริเวณหอฉัน
เตรียมตัวเหมือน ฉันภัตตาหารเช้า

13:00 น. ปฏิบัติธรรมร่วมกัน ที่ศาลาใหญ่และโบสถ์

14:30 น. ร่วมกันทำความสะอาดบริเวณวัด กวาดใบไม้ลานวัด

17:30 น. สวดมนต์ทำวัตรเย็น และ ปฏิบัติธรรมร่วมกันที่ศาลาใหญ่

20:00 น. แยกปฏิบัติกิจส่วนตัวและพักผ่อน

( วันพระปฎิบัติถึง 20:30 น.)

ศึกษาธรรมะ กับธรรมชาติ


ศึกษาธรรมะ ศึกษากับธรรมชาติมันจริงๆ
มันก็ต้องรู้มาจากกฎของธรรมชาติมันจริงๆ
เพราะธรรมชาติมันสอนให้เราจริงๆ เป็นอย่างนั้น


ตาจึงเป็นหน้าที่ของมองให้เห็น
หูจึงเป็นหน้าที่ของฟัง
จมูกจึงเป็นหน้าที่ของดม
กายเราเป็นหน้าที่ที่สัมผัส เย็น ร้อน อ่อน แข็ง
ลิ้นนี่ กินอาหารเข้าไปเป็นหน้าที่ที่จะรู้รส
จิตใจของเราเรียกว่าธรรมารมณ์เกิดขึ้นกับใจ
คำว่าธรรมารมณ์เกิดขึ้น ก็คือ หมายถึง
จิตใจเราปรากฏ พลิกแพลง เราต้องเห็นต้องรู้


เมื่อเรารู้จักหน้าที่ของคน
เราต้องศึกษาความเป็นคน
เนี่ยะ…ความเป็นมนุษย์
เรื่องเทวดา เรื่องพระอินทร์ พระ-พรหม
แล้วก็ไม่ต้องศึกษาก็ได้ มันเป็นอย่างนั้น
แต่เมื่อศึกษาความเป็นมนุษย์ได้แล้ว
มันจะไหลไป เข้าไปสู่ความเป็นพระอริยบุคคล
ไม่ว่ายุคนั้น ยุคนี้ ไปเหมือนเดิม


ดังนั้น การศึกษาธรรมะจึงไม่ยาก
ไม่ขึ้นอยู่กับสถานที่ที่ใดทั้งสิ้น
ขึ้นอยู่กับตัวคน อยู่ที่ไหนก็ทำได้…


หลวงพ่อเทียน (คัดจากแถบบันทึกเสียง รหัส ท.119ม.)